Listen to the sound from the heart. ฟังให้ได้ยินเสียงจากหัวใจ

Listen to the sound from the heart.

Auntie Chan Phen Stage 2 breast cancer requires surgery and chemotherapy.
You have changed your doctor 2 times.

First, you say that you do not believe. Because the doctor said that you aunt cancer. I have not seen you in a while. Do not accept in the doctor. I decided to switch to the second doctor.

2, you say that the doctor told the surgery. At that time you started to cherish a level. It's time to really have aunt surgery and fear not get to have surgery. And chemotherapy may be followed. Auntie's appointment And change the doctor.

This time, you meet my aunt. I see why your aunt change doctors often. Ask to ask as I mentioned above.

You do not get the first test results, you say the first shock. Come to the hospital alone. I went out of the room to check out the light and feel that life is very desperate.

... You're afraid of surgery. I'm afraid it will hurt. Will the anesthesia recover? Will I have to stay for a long time? I do not know what to do. The husband can not help himself. Paralyzed

... you are afraid of chemotherapy after surgery. I'm afraid to lose Will I fall again? I saw all the people told that all the dead. I understand that all the time.

I have heard your problems aunt. This case is explained one by one. You know, I trust, and finally healed. You are now aunt lost. To take care of your husband after the drug. I was just as normal and the surgery was not as horrible as your aunt's first concern.

In one day, we examined nearly a hundred patients.
So some cases may soon. It takes less than three minutes.
Some cases look like the problem. Or maybe there is a problem. And give it a lot of time.
How can I see that much talk less talk. It depends on the experience of each doctor.

So what's the problem? The problem is "listening" is the most important.
Teachers always teach me to listen to the patient. "Listen to the patient. What is he? This leads to accurate diagnosis. "

And there are 3 steps.
Listening to the first level is listening through the ears, not thinking or interested what he wants. Listening to this will connect with the idea. Listening experience Make a wrong decision Because bias or bias.

Listening to Level 2 is listening intently to focus on what you hear and the result. I do not think that the problematic analysis. And how to solve it.

Listening to Level 3 is the ultimate listening experience. That is, do not listen to the same, but to watch the behavior of the eyes to hear what he did not say. Must be trained and experienced.

Treatment of patients as well.
If the case is a problem, it should listen to level 3.
I have to understand what he has problems and what to help.
This may actually help him, establish a relationship between the doctor and the patient. And reduce the lawsuit.

That is, "Listen ... hear from the heart."

OR NO.9 Tales from the operating room

ฟัง...ให้ได้ยินเสียงจากหัวใจ

คุณป้าจันทร์เพ็ญ ป่วยเป็นมะเร็งเต้านมระยะที่ 2 ต้องผ่าตัดและให้ยาเคมีบำบัด
คุณป้าเปลี่ยนหมอมา 2 ครั้งแล้ว

ครั้งแรก คุณป้าบอกว่ายังไม่เชื่อ เพราะหมอบอกว่าคุณป้าเป็นมะเร็ง ตอนนั้นในใจคุณป้ามีแต่ปฏิเสธ ไม่ยอมรับในผลที่หมอแจ้ง จึงตัดสินใจเปลี่ยนไปหาหมอคนที่ 2

ครั้งที่ 2 คุณป้าบอกว่า หมอบอกให้ผ่าตัด ตอนนั้นคุณป้าเริ่มทำใจมาได้ระดับหนึ่งแล้ว พอถึงเวลาจริง ๆ ต้องผ่าตัด ป้ายังกลัว และรับไม่ได้ที่จะต้องผ่าตัด และอาจต้องให้ยาเคมีบำบัดตามมา คุณป้าก็เลื่อนนัด และเปลี่ยนหมออีก

ครั้งที่ 3 ครั้งนี้คุณป้ามาเจอผม ผมเห็นว่าทำไมคุณป้าเปลี่ยนหมอบ่อย ถามไปถามมาก็ได้ความตามที่เล่ามาข้างต้น

...คุณป้ารับไม่ได้กับผลตรวจครั้งแรก คุณป้าบอก วินาทีแรกรู้สึกช็อค มาโรงพยาบาลคนเดียว เดินออกจากห้องตรวจตัวเบา หัวโล่งไปหมด รู้สึกว่าชีวิตนี้สิ้นหวังมาก

...คุณป้ากลัวการผ่าตัด กลัวว่าผ่าแล้วจะเจ็บมากไหม หลังดมยาสลบจะฟื้นไหม จะต้องนอนโรงพยาบาลนานไหม กลัวว่าถ้านอนนานไม่มีคนมาเฝ้าจะทำยังไง เพราะลูก ๆก็ทำงานกันหมด สามีก็ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ นอนเป็นอัมพาต

...คุณป้ากลัวการให้ยาเคมีบำบัดหลังผ่าตัด กลัวว่าจะแพ้ไหม ผมจะร่วงแล้วขึ้นใหม่ได้ไหม เพราะเห็นคนข้างบ้านเล่าให้ฟังว่าให้นาแล้วตายทุกราย ก็เลยเข้าใจแบบนั้นมาตลอด

พอได้ฟังปัญหาของคุณป้า เคสนี้ก็อธิบายทีละประเด็น จนคุณป้าเกิดความเข้าใจ ไว้วางใจ และยอมรักษาในที่สุด ตอนนี้คุณป้าหายเป็นปกติแล้ว กลับไปดูแลตัวเอง ดูแลสามีได้ หลังให้ยาเคมี ผมก็ขึ้นตามปกติ และการผ่าตัด การให้ยาก็ไม่ได้น่ากลัวแบบที่คุณป้ากังวลแต่แรก

ในหนึ่งวันเราตรวจคนไข้เกือบร้อยคน
ดังนั้น บางเคสอาจตรวจเร็ว มีเวลาแทบไม่ถึงสามนาที
บางเคสที่ดูลักษณะแล้วมีปัญหา หรืออาจมีปัญหาก็ต้องหยุด และให้เวลากับเคสนั้นมากหน่อย
จะดูได้อย่างไรว่าเคสไหนต้องคุยมากคุยน้อย ก็ขึ้นกับประสบการณ์ของหมอแต่ละคน

ดังนั้นเคสไหนที่มีปัญหา หรือน่าจะมีปัญหา "การฟัง" จึงสำคัญที่สุด
สมัยเรียน อาจารย์จะสอนผมเสมอว่าให้ตั้งใจฟังคนไข้ "Listen to the patient they are telling you the diagnosis." เพราะคนไข้กำลังบอกคุณอยู่ ว่าเขาเป็นอะไร นำไปสู่การวินิจฉัยโรคที่ถูกต้องได้"

และการฟังมี 3 ขั้น
การฟังระดับที่ 1 คือ ฟังแบบผ่าน ๆ หูไป ไม่ได้คิด หรือสนใจว่าเขาต้องการอะไร การฟังแบบนี้จะเชื่อมเข้ากับความคิด ประสบการณ์ของผู้ฟัง ทำให้ตัดสินใจผิดพลาด เพราะอคติหรือ bias ได้

การฟังระดับที่ 2 คือการฟังแบบตั้งใจ จับประเด็น จดจ่อกับสิ่งที่ฟังหาเหตุและผล ไม่ด่วนตัดสินใจ คิด วิเคราะห์ว่ามีปัญหาอะไร และจะแก้อย่างไร

การฟังระดับที่ 3 คือการฟังแบบที่เหนือชั้นที่สุด นั่นคือไม่ใช้ฟังอย่างเดียว แต่ต้องดู สังเกตกิริยา อาการ แววตา ท่าทาง ตั้งใจฟังให้ได้ยินในสิ่งที่เขาไม่ได้พูดออกมา ต้องอาศัยการฝึกฝนและประสบการณ์

การรักษาคนไข้ก็เช่นกัน
ถ้าเคสไหนที่มีปัญหา ก็ควร ฟังให้ถึงระดับที่ 3
จะได้เข้าใจว่าเขาทุกข์เรื่องไหน มีปัญหาอะไร และอยากให้ช่วยอะไร
แค่นี้ก็อาจช่วยเขาได้จริง ๆ, สร้างความสัมพันธ์ระหว่างหมอกับคนไข้ และลดการฟ้องร้องได้

นั่นก็คือ "ฟัง...ให้ได้ยินเสียงจากหัวใจ"

OR NO.9 เรื่องเล่าจากห้องผ่าตัด