Most of my friends know very well that I am not very good at cooking.

This may be because I am not very attached to tastes of food or drink nowadays. So, I don’t go to famous restaurants or seek out popular dishes. My Buddhist practice has changed me a lot over the years. I learn to see things for what they are and be aware of my own thoughts and attachment. I learn to appreciate good things in life without becoming attached to or dependent on them.

Many years ago, a dear friend wanted to bring me to lunch at a very expensive restaurant. I told her that there’s no need to spend so much money as I couldn’t eat that much any way. My friend told me that we should seek out the pleasure of eating by going to good restaurants; the purpose of living is to seek out pleasures! I was dumbfounded by her simple philosophy of living and I didn’t know what to respond to her good intention and generosity.

I have seen many people whom I know ended up with bad health and spent a lot of money on medication and hospital bills because of bad eating habits. These people include my own families’ members and close friends. The saying that “you are what you eat” rings true to me. Besides, people who eat according to their desires reflects to me that they are not aware of what they are doing to themselves and don’t really understand how to live according to the Buddhist teachings. So few people seek the path of wisdom and enlightenment, most pursue worldly desires and gratifications with all their precious energy. Living then becomes a cycle of sufferings and happiness without ending.

เพื่อนของเราจะรู้ว่าเราทำอาหารไม่ค่อยเป็น และไม่ค่อยมีความรู้ด้านร้านดังและมีชื่อเท่าไร ส่วนหนึ่งอาจจะเป็น เพราะว่าเราฝึกเรื่องการไม่ยึดติดรสชาดของอาหารและเครื่องดื่ม ยิ่งสนใจการกินอาหารมังสวิรัติด้วย ก็ยิ่งทำให้เราสนใจการกินอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น เรารับรู้ได้ว่าอาหารจานไหนปรุงมาอย่างพิถีพิถัน ใช้ส่วนประกอบที่มีคุณภาพ

หลายปีมาแล้วเพื่อนของเราเชิญเราไปกินอาหารกลางวันที่แพงและหรูมาก เราก็บอกเพื่อนว่าไม่จำเป็นต้องไปเสียเงินมากมายและเราก็กินได้ไม่มาก เพราะเรากินแบบมังสวิรัติ เพื่อนเราบอกว่าการใช้ชีวิตคือการแสวงหาความสุขมิใช่หรือ แล้วทำไมเราจึงไม่กิน และแสวงหา อาหารที่อร่อยและร้านที่มีชื่อเสียงกิน เพื่อความสุขในการกินเล่า เราอึ้งจนตอบอะไรไม่ถูก ปรัชญาชีวิตของเพื่อนเรา และความหวังดีใจกว้างของเขา ทำให้เราทึ่งมาก เพื่อนเรามีนำ้หนักเกินแปดสิบกิโล แต่มีสุขภาพดีเพราะมีสระว่ายนํ้าที่บ้าน

เราเห็นหลายคนที่ต้องป่วย และจ่ายค่ายาและโรงพยาบาลเพราะเคยตัวและกินตามใจปากมานาน พอรู้ว่ามีผลเสียก็แทบจะสายเกินแก้ ต้องพึ่งยาเคมีที่มีผลข้างเคียงอีก บางคนก็ได้เสียชีวิตไปแล้วเพราะผลข้างเคียงของยา บางคนก็กำลังมีความทุกข์ทรมานด้านสุขภาพ เวลาเราเห็นเพื่อนและญาติกินอาหารเกินควร และกินเพราะความอยากสนอง ความอยากลิ้มลองรสชาดที่ติดใจ เราก็พยายามเตือนเพราะแต่ละคนมีปัญหาไขมันในเลือดสูง การกินแบบบี้ไม่ใช่วิถีของชาวพุทธที่ควรจะเข้าใจถึงคำสอนทางพุทธศาสนา ความหมายของการมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ การใช้ชีวิตที่ถูกต้อง ดังนั้นชีวิตของคนส่วนใหญ่ ก็คงต้องเวียนว่ายตายเกิดไปเรื่อยๆ

Wishing you a peaceful weekend.

Cheers.