สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ทุกคน
ช่วงเน้.... ที่ภูเก็ตชุ่มช่ำกันทั้งวัน เพราะฝนตกทุ๊ก....วัน แต่ก็โชคดีหน่อยที่ตกเฉพาะช่วงดึกๆ ไปจนถึงเช้า แต่วันนี้พิเศษใส่ไข่กันไปเลยจร้าาาา.... ตกทั้งวัน แต่แค่ปรอยๆ นะไม่ถึงกับเปียก แบบว่ากำลังนอนสบายอ่ะ บัวชอบฝนที่ตกช่วงกลางคืน เพราะทำให้อากาศเย็น และนอนสบาย แถมไม่ต้องรดน้ำต้นไม้ให้เปลืองค่าน้ำประปาอีกด้วย เริ่มเข้าสู่หน้าฝนนอกจากดอกไม้ ต้นไม้จะงามเป็นพิเศษที่ได้น้ำฝน แต่ที่งามกว่าดอกไม้ก็คือหญ้าค่ะ ยาวเร็วม๊วกกกก.... เพิ่งจะตัดไปเมื่อต้นเดือน นี่ปลายเดือนต้องมาตัดกันอีกแล้ว ตอนนี้ที่ภูเก็ตหลังจากที่ฝนตกมาได้อาทิตย์กว่าๆ มองไปทางไหนก็สดชื่นสบายตาค่ะ เพราะต้นไม้ใบหญ้าเขียวชอุ่มเป็นพุ่มไสว
ส่วนวันเน้.... บัวก็นำเรื่องราวของเหล่าผึ้งน้อย ผึ้งงานมาฝากเพื่อน ค่ะ เนื้อหาต่างๆ ก็ตามอากู๋อีกเช่นเคยค่ะ เมื่อเราได้ศึกษาชีวิตสัตว์ต่าง ๆ ก็ทำให้เราเข้าใจถึงธรรมชาติของมัน และสามารถอยู่ร่วมกันกับมันได้
การดำรงชีพกับวิถีความเป็นผึ้งตัวน้อย การบินเหินฟ้าเล่นลมของผึ้งนั้น ก็เพื่อไปหาน้ำหวานจากมวลหมู่ดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ และตอบแทนดอกไม้ด้วยการผสมเกสรต่างๆ ผึ้งมีเส้นประสาทรับความรู้สึก และประสาทรับสัมผัสที่เชื่อมกับขนบริเวณลำตัว สำหรับรับสัมผัสกับแรงลมที่โผบินในแต่ละครั้งได้อยเป็นอย่างดี และกลิ่นของอาหารนั้นก็คือน้ำหวาน รวมถึงรับรู้แรงดึงดูดของโลกทำให้ผึ้งน้อยทุกชีวิต ทุกสายพันธุ์ทราบถึงโสตประสาทการบินในระดับความสูงต่ำขณะบินได้เป็นอย่างดีเช่นกัน ผึ้งมีลักษณะการบินในทิศทางทวนลมเป็นหลัก
การออกหาอาหารของผึ้งตัวน้อย 1 ตัว ผึ้งจะออกหาอาหารในช่วงเช้าหลังพระอาทิตย์ขึ้น สำหรับการสร้างรังใหม่ ผึ้งจะออกสำรวจแหล่งอาหาร และระยะทางเป็นอย่างดีก่อน แล้วค่อยสื่อสารเสวนาในภาษาผึ้งให้กับผึ้งตัวอื่นๆ ทราบ การสื่อสารผ่านการเต้นรำ
ผึ้งสามารถรับรู้ความสูงต่ำของต้นพืชจากระดับการบิน และจำแนกอายุของดอกไม้ได้ จากการเคลื่อนย้ายของผึ้งจากดอกหนึ่งไปยังอีกดอกหนึ่ง เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ในทิศทางที่เป็นเส้นตรง เพื่อที่จะไม่ลงดอกเดิมซ้ำอีก การเก็บน้ำหวานของผึ้งในแต่ละครั้ง จะเลือกเก็บจากพืชเพียงชนิดเดียว ผึ้งจะลงเก็บน้ำหวานสองครั้งจากดอกไม้ดอกเดียว แต่มักพบว่าก้อนเกสรที่ผึ้งเก็บมานั้น จะมีเกสรของพืชหลายชนิดปนอยู่ แต่จะมีพืชอาหารหลักชนิดใดชนิดหนึ่งมากที่สุด และเกสรจากพืชอื่นเพียง 2-4 ชนิด เท่านั้นที่ปะปนมา ผึ้งพันธุ์สามารถลงดอกไม้ได้มากกว่า 40 ดอกใน 1 นาที ผึ้งหนึ่งตัวสามารถออกหาอาหารได้มากถึงสี่ล้านเที่ยว โดยเฉลี่ยแล้วสามารถลงดอกไม้ได้ 100 ดอก โดยการใช้ proboscis แทงเข้าไปในต่อมน้ำหวานของดอกไม้ ดูดน้ำหวานมาเก็บไว้ใน nectar sac ปริมาณเฉลี่ยของน้ำหวานที่ผึ้งเก็บไว้ในแต่ละเที่ยว ประมาณ 20-40 กรัม หรือประมาณ 90% ของน้ำหนักตัวผึ้งแต่ละตัว
น้ำผึ้งสามารถเก็บไว้ได้นานนับเป็นปีๆ ณ อุณหภูมิห้องโดยไม่ต้องใส่ไว้ในตู้เย็น เพียงแต่เก็บในภาชนะบรรจุที่เป็นแก้ว และปิดผนึกแน่นหนาไม่ให้มดเข้าไปได้ น้ำผึ้งนับเป็นอาหารจากธรรมชาติที่สมบูรณ์แบบอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งนี้ก็เพราะ ผึ้งช่วยกลั่นกรอง และดำเนินการทุกขั้นตอนของการผลิตน้ำผึ้งให้แก่คนเรา ผึ้งจะเก็บน้ำหวานจากดอกไม้ด้วยลิ้น และส่งต่อไปไว้ยังกระเพาะเก็บน้ำผึ้ง ที่ซึ่งเอนไซม์ในน้ำละลาย จะเปลี่ยนน้ำตาลซูโครสในน้ำหวานของดอกไม้ ให้กลายเป็นน้ำตาลเด็กโทรส และเลวูโรส เมื่อผึ้งบินกลับรัง ผึ้งจะเก็บสะสมน้ำหวานซึ่งผ่านกระบวนการย่อยมาบ้างบางส่วนแล้ว ไว้ในแต่ละช่องของรวงผึ้ง จากนั้นผึ้งพ่อบ้านจะออมน้ำหวานไว้ในปาก เพื่อสร้างกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางเคมีในอีกขึ้นตอนหนึ่ง จากนั้นกลุ่มผึ้งงานก็จะใช้ปีกพัดน้ำหวาน เพื่อให้น้ำส่วนเกินระเหยออกไป ผลผลิตสุดท้ายคือ น้ำผึ้ง ซึ่งมีองค์ประกอบของน้ำเพียง 18% เท่านั้น
เอนไซม์ตัวหนึ่งในน้ำลาย ซึ่งผึ้งเติมลงในน้ำหวานของดอกไม้ คือ กลูโคลสออกซเดส เอนไซม์ตัวนี้จะชะลอการเติบโตของแบคทีเรีย ในช่วงกระบวนการระเหยน้ำ และช่วงหลังจากนั้นถ้าปริมาณน้ำในน้ำผึ้งเพิ่มขึ้น และด้วยคุณสมบัติการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคของน้ำผึ้งนี้เอง คนโบราณจึงใช้น้ำผึ้งทาสมานแผล และใช้น้ำผึ้งในการดอกศพ หรือรักษาศพไม่ให้เน่าเปื่อย ผึ้งน้อยนับล้านพลังสมัครสมานสามัคคี รวมพลังกว่าจะได้น้ำผึ้งมาในแต่ละหยด ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย นอกจากน้ำผึ้งที่มีคุณประโยชน์แล้วนั้น ยังมีไขผึ้ง เป็นสารที่ผลิตได้จากผึ้งงานจากต่อมไขผึ้งสำหรับสร้างรวงผึ้ง นำมาผลิตเทียนไข ใช้เป็นส่วนผสมของน้ำยาขัดมัน และเคลือบเครื่องหนังได้อีกด้วย ชันผึ้งเป็นวัสดุเหนียวสีน้ำตาล หรือสีดำที่ติดตามบริเวณต่างๆ ของรังผึ้ง เช่น ช่องว่าระหว่างคอนผึ้ง จะถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบหลักในการปรุงยาสมุนไพรแต่โบราณ ป้องกันโรคเหงือกบวม เหงือกอักเสบ รักษาต่อมทอนซิลอักเสบ และรักษาแผลในปาก บรรเทาอาการเจ็บคอ รักษาอาการไอ นอกจากนั้นยังใช้เป็นส่วนผสมของเครื่องสำอางอีกด้วย เห็นไหมค่ะว่าประโยชน์ของผึ้งครอบจักรวาลจริงๆ
เมื่อก่อนตอนเป็นเด็ก ครอบครัวของบัวจะอาศัยอยู่ที่ไร่ข้าวโพด ตอนเย็นๆ หลังจากเลิกงานจากไร่ข้าวโพด พ่อก็จะไปหาตีผึ้งตามป่า โดยใช้วิธีจุดไฟรมควัน ตอนพ่อไปหาผึ้งบัวก็ไม่เคยไปด้วยหรอกนะ เพราะยังเป็นเด็กมันอันตราย จะเห็นตอนที่พ่อได้รวงผึ้งรังใหญ่กลับมาที่ไร่ น้ำหวานจากรวงผึ้งบางทีได้ถึง 2 ขวดใหญ่ๆ เก็บไว้กินได้นานนับปีทีเดียว ส่วนตัวอ่อนของผึ้งแม่ก็จะทำเป็นอาหาร ไม่ว่าจะเป็นหมก แกง หรือตำน้ำพริก คือดัดแปลงเอาค่ะ แล้วแต่เชฟเลยว่าอยากจะทำอะไร ไม่ต้องรอมติจากที่ประชุม ทำอะไรมาพวกเราก็กินหมดตลอด ตอนเป็นเด็กกินอะไรก็อร่อย ตอนนั้นรู้สึกว่าการได้นอนที่ไร่ ได้ทำไร่ กินอาหารจากป่า ก็ทำให้มีความสุขดี วันเวลาช่างผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน จนปัจจุบันอยู่ในป่าคอนกรีต ก็ยังไม่เคยลืมความสุขในช่วงของวัยเด็กเลย
Great post! I encourage you to join my "Fascinating Insects" community. :)
Downvoting a post can decrease pending rewards and make it less visible. Common reasons:
Submit
Thanks and thanks for the advice.
Downvoting a post can decrease pending rewards and make it less visible. Common reasons:
Submit
You are welcome! :)
Downvoting a post can decrease pending rewards and make it less visible. Common reasons:
Submit