ประสบการณ์การจองห้องพัก

Photo by @moonoi22

วันนี้มีเมล์จาก Agoda มาเทห้องพักแต่เช้า กับทริปที่จะต้องเดินทางในเดือนหน้า แม่เจ้า!!! รู้สึกโกรธมาก นี่ก็ว่าเตรียมตัวมาดีแล้วนะ เพราะเข้าใจดีว่าการเปลี่ยนแปลงห้องพักมันสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะเมื่อมีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ก็ไม่คิดว่าจะมาเทกันด้วยระยะเวลาอีกแค่เดือนเดียว ไม่รอค่ะ รีบโทรหา Call Center ของ Agoda ทันที ก็ไม่รู้สินะว่าวันนี้หวยจะออกที่ใคร++++ มีน้องเสียงหวานรับสาย พี่ค่ะ ห้องพักบอกว่าปิดปรับปรุงค่ะ พี่จึงไม่สามารถเข้าพักได้ เร็วกว่าเสียงน้อง ก็เสียงพี่นี่แระ โถ่น้อง พี่ไม่ได้โง่ ห้องพักที่ไหนจะมาปิดปรับปรุงช่วง High Season โดยเฉพาะช่วงปีใหม่ด้วยแล้ว อีกอย่างโรงแรมนี้ ทริปที่แล้วพี่ก็เคยไปพัก ไม่มีอะไรที่ต้องปรับปรุงหรอกค่ะ แล้วคือจะยังไง อีกที่พี่ก็จองกับ Agoda นะ (ไปหลายวัน เลยแยกจองห้องพักหลายที่ เพราะไม่อยากจองที่เดียว ป้องกันการ Cancel แบบนี้) น้องนางเลยบอก เดี๊ยวทาง Agoda มี Gift Cash ให้ค่ะ ประมาณ 41 USD เลยใส่อีกสักดอก น้องค่ะ ตอนที่จองพี่ได้ราคาต่ำนะ เนื่องจากพี่จองล่วงหน้าหลายเดือน แต่ให้พี่มาจองตอนนี้ใหม่ ราคาอัพขึ้นเท่าตัว เพราะเป็นช่วง High Season ส่วนลดที่ได้มามันไม่คุ้มกันหรอกค่ะ แล้วก็วางสาย เข้าใจนะว่านางไม่ผิดแต่ช่วยไม่ได้ อยู่แผนก call center ต้องอดทนค่ะน้อง

คือจริงๆ ก็ไม่รู้ว่าความผิดของใครกันแน่ ระหว่างของทางโรงแรม หรือ ของ Agoda แต่ที่แน่ๆ เอาห้องที่เราจองไว้แต่แรกไปขายให้คนอื่นแน่นอน เพราะอย่างที่บอก ถ้ามาจองช่วงนี้ลูกค้ายอมเสียแพง จากตอนที่เราจองได้ราคาห้องล่ะ 2,000 บาท มีลูกค้ารายใหม่มาจองได้ห้องล่ะ 3,000 บาท ก็เลือกรายใหม่ หรืออาจจะได้ราคาห้องเท่ากัน 2,000 แต่พอดีลูกค้ารายหลังพักนานกว่า ก็ยินดีที่จะเทเรา ส่วนที่ว่าใครเอาไปขาย อันนี้ไม่แน่ใจค่ะ เพราะทั้ง 2 ฝ่ายต่างก็ได้ผลประโยชน์เหมือนกัน ดังนั้นคนที่มักจองทริปข้ามปี ข้ามชาติควรมีความระวัง ตรงนี้ให้ดี ไม่ใช่ดีใจ ว่าจองนานแล้วได้ราคาถูก แต่จริงๆ มีความเสี่ยงว่าจะโดนเทมากกว่า คนที่จองปุ๊บแล้วบินปั๊บ

ที่เขียนมาไม่ได้โจมตี Agoda นะค่ะ Booking.com และAirbnb ก็เป็นเหมือนกัน แต่วันนี้ ทาง Agoda อาจจะโชคร้ายไปหน่อย เพราะพอได้ส่วนลด ก็เข้า Booking.Com เพื่อจองที่ใหม่ทันที อีกที่กำลังตัดสินใจว่าจะยังไง สรุปง่ายๆ เกี่ยวกับประสบการณ์ที่เคยเจอมากับการจองห้องพักขอสรุปเป็นข้อๆ ตามนี้

1.เลือกไว้เลยค่ะ 3-4 ที่ อย่าสนใจว่าจะมีข้อความเตือนบ่อยๆ ว่าเราเลือกวันเข้าพักวันเดียวกัน ใกล้ๆวัน เอาแบบใกล้ๆ จริงๆ ค่อยไป cancel รร. ที่เราไม่ต้องการ (ทำปฎิทินไว้ วันที่สามารถ cancel ได้โดยที่ไม่เสียเงินคือวันไหน เอาแบบนี้เลยจะดีมาก) เพราะถ้าถึงจังหว่ะ ทาง รร.จะเทเรา จะได้มีตัวเลือก ไม่มีใครช่วยเราได้ นอกจากเราเอง Only ส่วนตัวก็คิดว่าเหลืออีกแค่เดือนเดียวนี่แระ เลยพลาด

2.อย่าคิดไว้ว่า การจ่ายเงินก่อนเป็นการการันตีว่าจะได้ห้องพักชัวร์ เป็นความเชื่อที่ผิดๆ ค่ะ เคยเหมือนกันจ่ายเงินไปแล้ว มา Cancel เฉย อันนี้ยิ่งแย่ ต้องมาเฝ้ารอว่าเงินจะโอนเข้ามาคืนตอนไหน ประสบการณ์นี้เจอกับ ทาง Airbnb ค่ะ

3.ทุกอย่างเหมือนจะไม่มีอะไร ดูปกติทุกอย่าง ก็อย่าชะล่าใจ ถ้ายังไม่ได้ Check in กรณีนี้ถือว่าซวยสุดๆ เคยเจอมาแล้วเหมือนกันกับทาง Booking.Com พี่นี้น้ำตาไหล ถึงหน้า รร. แล้วแต่ไม่มีห้อง เดินทางทั้งคืน คืออยากเข้าห้อง อยากอาบน้ำ อยากพัก แต่ทุกอย่างจบ เนื่องจากทาง รร. เปิดห้องทับซ้อนกัน ไม่ยอมบอกล่วงหน้า ขอให้ทุกคนตั้งสติค่ะ ไม่ต้องไปโวยวายให้มากความ เพราะถึงจะโวยวายยังไง คุณก็ไม่ได้เข้าพักอยู่ดี เพราะมันไม่มีห้อง อย่าไปฟังเสียงที่ Host แนะนำว่าต้องไปพักที่นั่นที่นี่ เพราะมันกะทันหันที่ที่เค้าแนะนำมักจะราคาแพงกว่าปกติ และส่วนใหญ่เราก็ต้องยอม เพราะเหนื่อย มืดแปดด้าน จงตั้งสติแล้วเปิด App หาห้องพักใหม่ Agoda หรือ Booking.Com เหมือนเดิม เข้าพักเลยวันนั้น ไม่ต้องจองล่วงหน้า จะได้ราคาถูกมากกว่าเดิมมากกก

4.จองกับทางเอเจนซี่ ดีที่สุดค่ะ ยังไม่เคยเจอประเด็น แถมบางช่วงได้ราคาถูกกว่า web ที่กล่าวมาข้างต้นนี้ด้วย

สุดท้ายอะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดไปค่ะ เดินทางไปถึงแล้ว ก็ทำสมองให้ปลอดโปร่ง (อันนี้คือบอกตัวเอง) ได้ไปเที่ยวทั้งที อย่าให้แค่เรื่องไม่มีที่พักมาเป็นประเด็น 555+

Thank you for support in my post.@moonoi22