23 เทคโนโลยีที่ได้รับการคาดการณ์ว่าจะปฏิวัตวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน

in thai •  7 years ago  (edited)

มนุษย์ฉลาดขึ้นทุกวัน จนสร้างสิ่งต่างๆมากมายเพื่อตอบสนองตัณหาและความท้าทายทางปัญญา ด้วยมันสมองและความสามารถของคนเก่งๆ ที่อุุบัติขึ้นบนโลกใบนี้ บางอย่างส่งผลดีต่อวิถีชีวิต บางอย่างก็กลับมาเบียดเบียนและทำลายมนุษย์ด้วยกันเอง ไม่ว่าอะไรจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร มนุษย์ทุกคนต่างมีสัญชาติญาณในการอยู่รอดและดำดำรงอยู่เสมอ เทคโนโลยีเป็นเพียงเปลือกของชีวิตเท่านั้น การไม่รับรู้การเปลี่ยนแปลงเลยก็ไม่ดี การตระหนกต่อการเปลี่ยนแปลงมากเกินไปก็ไม่ดี สุดท้ายแล้วคือทางสายกลางดีที่สุด เราต้องยอมรับว่าชีวิตคือการปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องและจะเร็วขึ้นกว่าในอดีต หลังจากหาข้อมูลไปเรื่อยๆก็มาสะดุดที่เรื่องนี้ วันนี้ผมจึงขอนำมาเขียนและเล่าในสไตล์ของผม กับ 23 เทคโนโลยีที่ได้รับการคาดการณ์ว่าจะปฏิวัติและเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน
23tech.jpg

  1. การฝังตัว (Implantable Technologies)
  2. ตัวตนทางดิจิทัล (Our Digital Presence)
  3. การมองเพื่อควบคุม (Vision as the New Interface)
  4. อินเทอร์เน็ตที่สวมใส่ได้ (Wearable Internet)
  5. คอมพิวเตอร์ที่พบได้ทั่วไป (Ubiquitous Computing)
  6. ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ในกระเป๋ากางเกง (A Supercomputer in Your Pocket)
  7. พื้นที่จัดเก็บข้อมูลดิจิทัลสำหรับทุกคน (Storage for All)
  8. The Internet of and for Things (IOT)
  9. บ้านที่เชื่อมต่อกับทุกอย่าง (The Connected Home)
  10. เมืองอัจฉริยะ (Smart Cities)
  11. ข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อการตัดสินใจต่างๆ (Big Data for Decisions)
  12. รถไร้คนขับ (Driverless Car)
  13. ปัญญาประดิษฐ์ และการตัดสินใจ (AI and Decision-Making)
  14. ปัญญาประดิษฐ์และมนุษย์เงินเดือน (AI and White-Collar Jobs)
  15. หุ่นยนต์และการให้บรกิาร (Robotics and Services)
  16. Bitcoin และ Blockchain
  17. เศรษฐกิจแบ่งปัน (The Sharing Economy)
  18. รัฐบาลและ Blockchain
  19. การพิมพ์สามมิติ และการผลิต (3D Printing and Manufacturing)
  20. การพิมพ์สามมิติและสุขภาพ (3D Printing and Human Health)
  21. การพิมพ์สามมิติและสินค้าอุปโภคบริโภค (3D Printing and Consumer Products)
  22. การออกแบบมนุษย์ (Designer Being)
  23. Neurotechnologies

ที่มา: บริษัท โบลลิเกอร์ แอนด์ คอมพานี (ประเทศไทย)จำกัด ประมวลจาก The Fourth Industrial Revolution, WEF, 2016

ถ้าจะเขียนทั้งหมดคงจะยาวไปจนไม่น่าอ่าน จะขอเล่าเป็นตอนๆ นะครับ เริ่มจากเทคโนโลยีแรกคือ เทคโนโลยีการฝังตัว (Implantable Technologies) ไม่รู้ว่าคนเก่งๆเหล่านี้ คิดจากพื้นฐานอะไร แต่เมื่อคิดและพัฒนาขึ้นมาแล้ว ย่อมส่งผลกระทบไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง จะมาช้าหรือมาเร็วนั้นขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและสภาพแวดล้อมต่างๆที่จะเป็นองค์ประกอบให้สำเร็จและเข้าถึงความเป็นอยู่ของผู้คนได้จริงหรือไม่ และหากเทคโนโลยีการฝังตัว (Implantable Technologies) เกิดขึ้นได้จริง สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ ผู้คนจะสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ดิจิทัลได้มากยิ่งขึ้น เพราะอุปกรณ์เหล่านี้จะสามารถเชื่่อมต่อกับร่างกายของมนุษย์ได้ และนี่คือ

human computer.jpg

10 เทคโนโลยีการฝังตัว (Implantable Technology)

  1. Implantable Smartphones
    ::: ก่อนหน้านี้ ศิลปิน Anthony Antonellisได้ฝังชิป RFID ในแขนของเขา ซึ่งสามารถช่วยบันทึกและถ่ายโอนงานศิลปะขนาดเล็กไปยังสมาร์ทโฟนได้

  2. Smart Organs
    ::: ได้ทำความสำเร็จในการทำให้ผิวผู้ของป่วยจากแผลไหม้ สามารถสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาใหม่โดยไม่ต้องใช้ยา

  3. Contraceptive Microchip
    ::: ชิปตัวเล็ก ๆ นี้จะปล่อยฮอร์โมนเพื่อคุมกำเนิดโดยใช้รีโมทคอนโทรลภายนอก โครงการนี้เป็นความคิดริเริ่มของสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) และได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิเกตส์

  4. Healing Chips
    ::: ใช้ cyber-implants เชื่อมต่อกับแอพพลิเคชันมาร์ทโฟนเพื่อเฝ้าติดตามและรักษาโรคอาการอย่าง real time ทีมที่มหาวิทยาลัยบอสตันทดสอบตับอ่อน Bionic ใหม่มีเข็มขนาดเล็กและเซ็นเซอร์ซึ่งสื่อสารกับแอพพลิเคชันสมาร์ทโฟนเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวาน

  5. Brain-computer Interface
    :::เป็นการเชื่อมต่อสมองของมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นความฝันของนิยายวิทยาศาสตร์ ในโครงการ BrainGate และมีการพัฒนาส่วนติดต่อระหว่างสมองกับคอมพิวเตอร์ที่สามารถแปลงความคิดไปสู่การปฏิบัติเพื่อช่วยคนพิการ และผู้ป่วยโรคไขข้ออักเสบก็สามารถเข้าถึงและจับวัตถุด้วยแขนหุ่นยนต์ได้ ซึ่งผู้ผลิตชิป Intel คาดการณ์การเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์และสมองจะเกิดขึ้นจริงในปี 2020

  6. Smart Tattoos
    :::รอยสักแบบดิจิทัลไม่เพียงแต่ดูดี แต่ยังสามารถใช้งานที่มีประโยชน์ เช่นการปลดล็อกรถหรือป้อนรหัสผ่านในอุปกรณ์ต่างๆของเรา

  7. Cyber Pills
    ::: Proteus Digital Health ได้พัฒนาเซ็นเซอร์ที่กินได้ซึ่งมีไมโครโปรเซสเซอร์สามารถส่งข้อความไปยังแพทย์ได้ ยานี้สามารถแบ่งปันข้อมูลเพื่อช่วยผู้ดูแลผู้ป่วยได้ หากผู้ป่วยไม่ได้รับยาอย่างถูกต้อง และไม่มีผลค้างเขียงตามมา

  8. Smart Dust
    :::ฝุ่นอัจฉริยะที่มีขนาดเม็ดเล็กกว่าเม็ดทรายซึ่งสามารถจัดอยู่ในร่างกายได้ และจะช่วยทำงานได้อย่างแม่นยำเพื่อดำเนินการภายในที่ซับซ้อน ในการโจมตีเซลล์มะเร็งในช่วงต้น เพื่อบรรเทาอาการปวดเนื่องจากการบาดเจ็บหรือแม้แต่การจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อที่จะได้รับการป้องกันเข้ารหัสลับ

  9. Biodegradable Battery
    ::: ทีมงานของ Draper Laboratory ในเคมบริดจ์กำลังดำเนินการเกี่ยวกับแบตเตอรี่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ พวกเขาสร้างพลังงานภายในร่างกายและจากนั้นก็ละลายได้โดยไม่ทำร้ายร่างกาย เป็นอีกโครงการหนึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณานั่นคือการใช้กลูโคสเพื่อเป็นพลังงานให้กับร่างกาย

  10. ID Chip
    :::เทคโนโลยีนี้จะอนุญาตให้มีการระบุตัวบุคคลทุกคนผ่านแท็กสมาร์ท กองทัพสหรัฐมีโครงการที่กำลังดำเนินอยู่เพื่อจัดหาทหารด้วยการฝังชิป RFID ในการติดตามกองกำลังโดยอัตโนมัติ

แหล่งอ้างอิงข้อมูล


ขอบคุณทุกกำลังใจและการติดตามกันนะครับ
Picture2.png

twitter (1).png steem.png facebook (1).png sola1.png 002-social-media.png browser (2).png 004-youtube.png

giphy.gif

Picture2.png

Authors get paid when people like you upvote their post.
If you enjoyed what you read here, create your account today and start earning FREE STEEM!
Sort Order:  

เทคโนโลยีวิวัฒนาการเข้าใกล้หนัง sci-fi ที่เคยดูไปเรื่อยๆ แล้ว เมื่อก่อนยังคิดว่าอีกยาวไกล แต่ตอนนี้เหมือนกำลังเกิดขึ้นอยู่ทุกขณะ

เราก่อต้องพัดทะนาตัวเองให้ทันtechnology

สมองมนุษย์ไม่เคยหยุดอยู่กับที่ มีวิทยการใหม่ ๆ

ข้อมูลใหม่ๆที่มีประโยชน์ครับ

The final is to control all people via implanted micro chips! Then, the controller can decide who will live or die! Total control of human selves through chipping the brains! RFID chips can contain cyanide to be released into people’ s blood stream!
There is a grand plan to control humanity and to reduce population!

น่ากลัวค่ะ