อยากปลอมเป็นผี เจอดีจนได้!!!

Dear All Steemian Friends.

Photo By @tookta

---

::: วันนี้เรา จะขอแชร์ ประสบการณ์ ในวัยเด็ก คือตอนเป็นเด็ก โดนผีหลอกบ่อยๆ คืน
นึง คิดพิเรน อะไรขึ้นมาก็ไม่รู้ อยากเป็นฝ่าย หลอกเค้าบ้าง.....มีอยู่ช่วงหนึ่ง เราย้าย
ไปอยู่ที่บ้าน ของลุงกับป้า และพวกแก มักจะเล่า เรื่องหลอนๆ ให้ฟัง ช่วงที่เราอาศัย
อยู่กับป้า เป็นช่วงที่เรา มีความสุข มากที่สุด.......ป้าเป็น พี่สาวคนโตของแม่ แกมีลูก
ชายสามคน และลูกสาวคนเล็กอีกหนึ่งคน ทำให้เรามีเพื่อนเล่น อยู่ตลอดเวลา (สนุก
จนลืมทุกข์ไปเลย) แต่ที่เรา ชอบที่สุด ก็คือ คุณลุง กับคุณป้า มักจะเล่าเรื่อง หลอนๆ
ชวนให้ ขนหัวลุก ตอนก่อนจะเข้านอน.....พวกเรา มักจะนั่ง จับกลุ่ม มีตะเกียงอยู่ตรง
กลางหนึ่งอัน (ได้อารมณ์มาก) พอเล่าไปถึง ช่วงท่อน ที่หลอน ที่สุด พวกพี่ๆ ก็มักจะ
แกล้ง ให้ตกใจกลัว แทบจะกระโดด กอดคอกัน โกรธมาก แต่ก็ทำอะไรพี่ๆ เขาไม่ได้

::: อยู่มาวันหนึ่ง เรามีโอกาส ได้เอาคืนบ้าง ก็จัดเต็ม เลยค่ะ........คืนนั้น ลุงกับป้าสั่ง
ให้พวกเรา นอนเฝ้าข้าวของ ที่ทุ่งนา เป็นช่วงที่ เริ่มทำนา พวกเราจึง ขนข้าวของ ไป
เตรียมไว้ก่อน ป้ากับลุง จำเป็นต้อง กลับไปนอน ที่บ้าน เพราะกระท่อม ก็ยัง สร้างไม่
เสร็จ เราจึงนอน ที่กระท่อม หลังเก่า ซึ่งมีแค่ เสาสี่ต้น หลังคา มุงด้วยหญ้า และพื้นปู
ด้วยฟาก ทำจากไม้ไผ่
::: คืนนั้น มีแค่เรา สี่พี่น้อง ที่ต้องนอน เฝ้าของที่นาไต้ ก็มีลูกชาย ของป้าสามคน คน
โต อายุประมาณ 13 ปี คนลอง ประมาณ 11 ปี และลูกชาย คนที่สาม อายุน้อยกว่าเรา
หนึ่งเดือน เพราะเคย โดนแกล้ง มาหลายครั้ง คืนนั้น เรากับลูกชาย คนที่สามของป้า
จึงปรึกษากันว่า คืนนี้พวกเรา จะต้องเอาคืน พี่ทั้งสองคน ให้จงได้ เราจึง วางแผนกับ
หมายน้อย (ชื่อของลูกชาย คนที่สามของป้า) เราบอกให้เขา เตรียมมุ้งเอาไว้

---

Photo By @tookta

---

::: พอทุกคน เข้านอน กันหมด (เราก็แกล้งหลับไปด้วย) พอแน่ใจว่าพี่ๆหลับสนิทกัน
หมดแล้ว เราก็ค่อยๆ ไปปลุก หมายน้อย และเริ่มทำ ตามแผน ที่วางเอาไว้.....คืนนั้น
เป็นคืนเดือนหงาย จำได้ว่า ยังพอจะมองเห็นบ้างลางๆ โดยที่ไม่ต้อง จุดตะเกียง อ้อ
ลืมบอก กระท่อมหลังนั้นไม่มีฝา คือมัน เปิดโล่งไปเลยทั้งหลัง เรากับหมายน้อยเอา
มุ้งที่เตรียมไว้ มาคลุมไว้ ตั้งแต่หัวจดเท้า แกล้งทำเป็นผีเพื่อที่จะไปหลอกพี่ทั้งสอง
คน พอพี่ๆตื่น ลืมตาขึ้น ก็ตกใจ สุดขีด ปากก็ตะโกน พร้อมๆกัน ลั่นทุ่งนา ว่า "ผ.ผีๆๆ
หลอกๆๆๆๆๆๆๆ!!!" แต่มือ ของพี่คนโต กลับไปคว้า เอาไม้คาน ที่ใช้สำหรับหาบของ
ตีหัวพวกเรา ปากก็ ตะโกนร้อง ว่าผีหลอก ส่วนมือ ก็ตีพวกเรา ซะเต็มแรงเลย เราจึง
รีบเอามุ้งออก และบอกพี่แก พร้อมกับ โอดครวญ ด้วยความเจ็บปวด "หยุดๆๆ หนูๆๆ
หนูเอง!ไม่ใช่ผี! หยุดๆๆสิ โอ๊ยๆๆๆ เจ็บนะ!!!" พี่แกเล่นตี แบบไม่ยั้ง ไม่หยุดตีสุดแรง
เกิด ด้วยความตกใจ......ทำเอาเรา เจ็บระบมไปทั้งตัว เพราะว่า กว่าเรา จะแก้เอามุ้ง
ออกไปจากตัวเราได้ ก็นานพอสมควร มือไม้พันกันยุ่งซะ ยิ่งกว่ามุ้งอีก

::: พอพี่ๆรู้ว่า เป็นพวกเรา ก็โดนไล่ เตะก้น อยู่พักนึง จนเราตะโกน บอกไปว่า "ทีตัว
เองแกล้งเค้าตั้งหลายครั้งล่ะ เค้ายังไม่ว่าอะไรพี่เลย!" แกก็เลยหยุด และตะคอกใส่
พวกเราว่า "ทีหน้า ทีหลัง อย่าทำอย่างนี้ อีกนะ ถ้านั่นไม่ใช่ไม้คาน แต่เป็นมีด แกจะ
ตายฟรี!" เราบ่นในใจว่า "แล้วใครจะไปรู้ฟะ ว่าจะเป็นแบบนี้ นึกว่าจะกลัวแล้ววิ่งหาง
จุกตูด หรือวิ่ง ป่าราบ ที่ไหนได้ ยิ่งกลัว แกก็ยิ่ง กระหน่ำตี แรงกว่าเดิมอีก!"
::: สมน้ำหน้าตัวเอง...555 ทั้งหัวโน ทั้งระบม และช้ำไปทั้งตัว เลยเรา นี่ใช่มั๊ย ที่เขา
พูดกันว่า "ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว"...ตั้งแต่นั้นมา เราก็ไม่กล้า ทำผี หลอกแก
อีกเลย เข็ดจริงๆค่ะ.....แต่หันมา หลอกน้องๆแทน 555

---

Thank you for visiting my post!

---

ขอขอบคุณ เพื่อนๆทุกคน ที่ติดตาม เรื่องราว ของเราเสมอมา
ขอบคุณทุกคะแนนโหวต + คอมเม้นท์ และกำลังใจที่มีให้กันตลอดมา
ความปรารถนาดี มีให้เพื่อนๆเสมอ
Much Love @tookta