เหมือนฝันร้าย ที่ไม่อาจลืม {หนีเสือ ปะ จระเข้ (Part. 4)}

in thai •  6 years ago 

Dear All Steemian Friends.
DSC_0721s.jpg

Photo By @tookta

ความเดิมจากโพสต์ที่แล้ว {Part 3}

🌶️ สวัสดีค่ะ คุณเพื่อนๆ Steemian.....ก็อย่างที่ เราเกริ่น เอาไว้ ในตอนท้าย ของโพสต์ Part 3 คงจะเป็น คราวซวย ของเรา หรือไม่ก็ เป็นช่วงที่ ดวงตก....เวลาถึงคราว มันจะซวย แม้แต่ขี้หมา ที่มันกอง อยู่เฉยๆ กับที่ ก็ยังดัน เผือกไปเหยียบ ให้กลิ่นมัน ฟุ้งโชย ซะได้.....คงเป็นจริง อย่างที่ สุภาษิตจีน พูดไว้ว่า "ถ้าหาก ไร้วาสนา ก็จงอย่า ขอพร จะดีกว่า" เพราะต่อให้ คุกเข่า ขอจนตาย ก็ไม่มีวันได้....หลังจากที่เรา กระโดดลง จากรถโดยสาร ประจำทาง คันนั้นแล้ว เราก็รีบ กลับไปบ้าน ที่เรา ทำงานทันที พอไปถึงบ้าน เจ้านาย เห็นเรา (นายจ้างคนนี้ เราเรียกแกว่า ยายแพง) เดินกระโผลก กระเผลก นางจึงถาม เราว่า "เกิดอะไรขึ้น? แล้วขา ไปโดนอะไรมา?" เราไม่กล้า บอกความจริง กับนาง จึงโกหกแก ไปว่า "หนูโดนรถเฉี่ยว ตรงก่อน จะถึง ไฟแดง แต่ไม่เป็นอะไรมาก แค่เป็นแผล ถลอกนิดหน่อย เดี๋ยวไม่กี่วัน ก็คงหายละ" นางเดินมาหาเรา แล้วจับแขน ตรงที่ เปื้อนเลือดดู จากนั้นก็ ถลกแขนเสื้อ เราขึ้น เพื่อจะดูแผล ที่ข้อศอก ของเรา หลังจากที่ เห็นแผล แกก็ พูดขึ้นว่า "โห!..แผลถลอก ตั้งลึก ถ้าไม่กินยา แก้ปวด คืนนี้แก ได้นอน จับไข้แน่ๆ!เดี๋ยวจะหายา มาให้ทานะ ไปอาบน้ำซะ แล้วค่อย ทายา...อย่าลืม กินยา แก้ปวด ตามด้วยนะ ไม่งั้นพรุ่งนี้ แกทำงาน ไม่ได้แน่ๆ" เราซาบซึ้งใจ จนน้ำตาซึม ขนาดญาติสนิท ที่เลี้ยงเรามา ยังไม่เคย ใส่ใจเรา แบบนี้ มาก่อน เราจึง ตอบแกไปว่า ขอบคุณมาก พร้อมทั้ง ยกมือไหว้แก

🌶️ คืนนั้น เราเข้านอน แต่หัวค่ำ สถานที่ ที่เขาจัดไว้ ให้เรานอน ทุกคืน คือ "ครัว" ทุกวัน หลังจากที่ คนในครอบครัว ทานข้าว เรียบร้อยแล้ว เราก็จะ ทำความสะอาดพื้น และ ย้ายโต๊ะอาหาร หลบไว้ ข้างฝา เราจะปูเสื่อ กลางมุ้งนอน ตรงกลาง ห้องครัว....ครอบครัวนี้ มีสมาชิก ทั้งหมด แปดคน มียายแพง กับ สามีแก ลูกชาย สองคน ลูกสาว หนึ่งคน ลูกสะใภ้ หนึ่งคน และ เด็กเล็ก 3 - 4 ขวบ อีกสองคน ลูกชายคนโต แต่งงานแล้ว มีลูกชาย หนึ่งคน (ก็เด็กที่เขา จ้างเรา มาเลี้ยงให้ นั่นแหล่ะ) ส่วนเด็กหญิง อีกคน เขารับ มาเลี้ยง เขาเรียกกันว่า "ลูกอิจฉา"

🌶️เย็นวันนั้น ที่โต๊ะ อาหารค่ำ สมาชิกทุกคน ในครอบครัว ทานข้าวกัน พร้อมหน้า ขาดแค่ ลูกชายคนโต เพียงคนเดียว แต่เราก็ ไม่ได้ ใส่ใจ เพราะคิดว่า ไม่ใช่เรื่อง ของเรา เห็นแม่เขา แบ่งอาหาร ไว้ให้เขา ก็คิดอยู่ ในใจว่า "แล้วเขา จะกลับมากิน ตอนไหน วะเนี่ย? แล้วเรา จะต้องตื่น ขึ้นมา จัดโต๊ะ อาหาร ให้เขา มั๊ยน๊า?" ก็คิดอยู่ แค่นั้น โดยที่ไม่ได้ คิดระแวง ระวัง เรื่องอื่นๆ เลยสักนิด

🌶️พอเรา ทำงานบ้าน ทุกอย่าง เสร็จเรียบร้อย ก็กินยา และเข้านอน ตามปกติ.....แต่กว่าจะ ข่มตา ให้หลับ ลงได้ ก็ใช้เวลา เป็นชั่วโมง เพราะหน้าตา และคำพูด ที่น่ารังเกียจ ของคนชับรถ โดยสาร มันยังวนเวียน อยู่ในหัว ของเรา....และแล้ว ในที่สุด เราก็เผลอ หลับไป โดยไม่รู้ตัว คงเป็นเพราะเหนือย และก็ ยาที่เรากิน ก่อนนอน....แต่พอเวลา ประมาณตีสอง เราก็ต้อง ตกใจตื่น ขึ้นมา อีกครั้ง เพราะรู้สึก ถึงมือ ของใคร คนหนึ่ง กำลังกำ ที่ข้อเท้า ข้างซ้าย ของเรา ไว้แน่นมากๆ.....{โปรดติดตามตอนต่อไป}

เส้นขั้น360.png

Thank you for visiting my post!
Thank you For all Your Upvotes and Comments,
I always deeply appreciate your support.


ขอขอบคุณ เพื่อนๆทุกคน ที่ติดตาม เรื่องราว ของเราเสมอมา
ขอบคุณทุกคะแนนโหวต + คอมเม้นท์ และกำลังใจที่มีให้กันตลอดมา
ความปรารถนาดี มีให้เพื่อนๆเสมอ
Much Love @tookta

user373724_pic142359_1382010030.gif


Authors get paid when people like you upvote their post.
If you enjoyed what you read here, create your account today and start earning FREE STEEM!
Sort Order:  

Crazy life!! How could so many bad things happen almost at the same time?!

Posted using Partiko iOS

เราก็ไม่รู้เหมือนกัน สงสัยคงจะเป็นอย่างที่เราบอกนั่นแหล่ะ มันถึงคราวซวย หรือไม่ก็ดวงตก...ตกแบบติดเตี้ยเลี่ยดินไปเลย

อ่านโพสต์ของคุณตุ๊กตา สมัยนั้นสมาร์ทโฟนยังไม่มีมังใช่ป่าว สมัยผมอายุ 10 กว่าปี ยังเป็นมือถืออันเท่ากระติกน้ำ เนตก็ยังไม่เข้าถึงมีแค่เนตบ้าน มานั่งอ่านโพสต์ของคุณตุ๊กตา ทำให้รู้เลยภัยคุกคามทางเพศ โดยเฉพาะเด็กมีมานานและก็เยอะแยะไม่แพ้ปัจจุบัน เพียงแต่ปัจจุบันข่าวสารมันสื่อสารได้ไวและกว้างขวาง

Posted using Partiko Android

ใช่ค่ะตอนนั้นยังไม่มีสมาร์ทโฟน นานๆทีจะมีโอกาสเห็นคนรวยถือรุ่นกระติกน้ำ...
สำหรับเรา จะติดต่อกันทีไร ก็ต้องวิ่งไปที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะปากซอย
เทคโนโลยี่ก้าวหน้า แต่จิตใจคนกลับถดถอย ไม่พัฒนาไปไหนเล๊ย!

เรื่องจริงครับ พัฒนาแต่วัตถุแต่จิตใจคนเท่าเดิมหรือถดถอยลง สมัยนี้หาโทรศัพท์ตู้ไม่มีแล้วนะครับ

Posted using Partiko Android

จริงอ่ะ ที่ว่า ไม่มีโทรศัพท์ตู้...คือเราไม่ค่อยสังเกต และไม่ค่อยออกจากบ้านด้วย..555

แถมฝางนี้ไม่มีแล้วครับ เดียวนี้เด็กประถม หรือแม้กระทั่งเด็กอนุบาลบางคนยังพกมือถือเลยครับ เออลืมเห็นแค่ในโรงพยาบาลฝางอยู่เครื่องหนึ่ง เห็นแล้วอดนึกถึงโบราณวัตถุที่ควรอนุรักษ์ไว้ยังไงไม่รู้นะครับ 5555 แต่ตามเมืองใหญ่ไม่แน่ใจยังทีไหม ตอนกลับไปเยี่ยมแม่จังหวัดนนทบุรี ผมก็ไม่เห็นนะ

Posted using Partiko Android