เที่ยวกุ้ยหลินเมืองไทย Part3

สวัสดีเพื่อนๆ steemit อีกครั้งครับ

มาติดตามการเที่ยว กุ้ยหลินเมืองไทย ใน part3กัน

🌄🌄📷🏊🚢🚣🚣🚣🚤🚤🏝🏝🏞🏞🛥🛥

หลังจากออกไปนั่งเรือชมหมอก ชมดวงอาทิตย์ขึ้นในเขื่อนกลับมาอาบน้ำแต่งตัว และทานข้าวเช้าแล้ว ไกด์นำเที่ยวบอก 09.00 น. เตรียมพร้อมออกผจญภัย นั่งเรือ ต่อด้วยนั่งแพไม้ไผ่ เพื่อข้ามไปชมถ้ำประการัง

เรือได้จอดรอเราพร้อมแล้ว ไปขึ้นเรือเพื่อเดินทางต่อกันเลย

หลังจากนั่งเรือมาประมาณครึ่งชั่วโมงก็มาถึง ทางเดินขึ้นเขา จากตรงนี้ เดินข้ามเขาไป ระยะทางประมาณ 2 กม. ก็จะถึงอีกฝั่งหนึ่ง มีแจกไม้เท้าเพื่อใช้เดินขึ้นเขาด้วย หยิบติดมือไปด้วยนะขอบอก ได้ใช้แน่นอน

ใครมาเดินที่นี่แนะนำเลยครับ หยิบไม้เท้ามาด้วย เพราะกว่าจะเดินมาถึงอีกฝั่งทำเอาเดินขาหมดแรงสั่นได้เลย ขนาดผมยังหนุ่มยังแน่นยังหมดแรง
หลังจากเดินข้ามเขามาก็ถึงแล้ว........... จุดลงแพไม้ไผ่
มองจากด้านบนลงไป...โอ้ว...ชื่นใจ วิวสวยงามมากแพไม้ไผ่จอดรอรับนักท่องเที่ยว....ตัดกับน้ำทะเลสีเขียว

จากบริเวณนี้ต้องนั่งแพไม้ต่ออีกรอบ เพื่อไปยังถ้ำปะการัง เพราะจุดนี้ไม่เชื่อมต่อกับผืนน้ำจุดอื่น เป็นทะเลสาปอีกจุดหนึ่งเรียกว่า “ ทะเลใน 500ไร่” ต้องนั่งแพไม้ไผ่ข้ามไปเท่านั้นเพื่อไปชมถ้ำประการัง

ลักษณะแพไม้ไผ่ จะเป็นการนำไม้ไผ่ต้นยาวๆมามัดรวมๆกันมีลักษณะคล้ายเรือ ยาวมากตรงกลางจะนำไม้กระดานแผ่นมาปูเพื่อให้เดินได้สะดวก และนำแผ่นไม้กระดานแผ่นสั้นมาวางพาดตามขวางเป็นเก้าอี้นั่ง ด้านท้ายจะติดเครื่องยนต์เล็กไว้เพื่อขับเคลื่อนแพ
เกิดมาผมก็ยังไม่เคยนั่งเรือแบบนี้เลย แปลกดีน่าสนุกด้วย

นั่งแพมาประมาณ 10 นาที ก็จะมาถึงฝั่งทางเดินขึ้นปากถ้ำจะต้องเดินปีนขึ้นไป แต่ก็ไม่ยากมากนัก ซึ่งก่อนเข้าไปจะมีไกด์เด็กๆ พูดเก่งคอยแนะนำอธิบายความเป็นมาของถ้ำนี้ และพร้อมแจกไฟฉายแบบคาดหัวให้คนละอัน เพราะภายในถ้ำจะมืดมากต้องใช้ไฟฉายส่องทางเดินตลอดทาง ซึ่งในการเช้าชมภายในถ้ำปะการัง ห้ามจับหินงอกหินย้อยภายในถ้ำอย่างเด็ดขาดและการถ่ายภาพหินงอก หินย้อย ห้ามใช้แฟลชโดยเด็ดขาด เพราะจะมีผลทำให้หินงอก หินย้อย หยุดการงอกและจะเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาล จะไม่เกิดหินงอก หินย้อยอีก ผมจึงไม่ได้ถ่ายภาพภายในถ้ำมาเพราะมืดมากได้แต่เดินชมความสวยงามเป็นประกายระยิบระยับเท่านั้น ภายในสวยงามมากจริงๆครับ ใครมาเที่ยวเขื่อนรัชชประภา ห้ามพลาดเด็ดขาด

หลังจากชมหินงอก หินย้อยในถ้ำประการัง ก็นั่งแพไม้ไผ่ย้อนกลับทางเดิมถ่ายภาพเซลฟี่กับคณะเดินทางเสียหน่อย และก็เดินขึ้นเขาอีกรอบ เพื่อกลับไปยังเรือยนต์หางยาว กลับรีสอร์ทที่พัก ![image](

)

กว่าจะกลับมาถึงที่พักก็ประมาณ 4โมงเย็นแล้ว ร้อนและเดินขึ้นเขาเหนื่อยมาทั้งวัน ได้เวลามาผ่อนคลายเล่นน้ำ พายเรือคายัคในทะเลสาปให้ชื่นใจกันเถอะ ![image](

) ![image](

)

มาเที่ยวครั้งนี้เหมือนได้ออกมาพักผ่อนอยู่กับธรรมชาติ ไม่มีทีวี ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ไม่มีรถติดให้หงุดหงิด ไม่มีเสียงคนจ๊อกแจ๊กโวยวาย มีแต่เพียงผืนน้ำสีเขียวใส ภูเขาหินปูน ต้นไม้สีเขียวและหมอกยามเช้า ได้หลบความวุ่นวายจากในเมือง มาอยู่กับธรรมชาติเต็มๆตลอดทั้งสามวัน ทำให้จิตใจเราเหมือนได้ชาร์ตแบตเติมพลังชีวิตให้เรารู้สึกสดชื่น มีแรงกายแรงใจเต็มร้อย พร้อมกลับไปสู้กับงานประจำของเราอย่างสดชื่นกระชุ่มกระชวยอีกครั้ง